SF Brother by your side #MARKBAM - SF Brother by your side #MARKBAM นิยาย SF Brother by your side #MARKBAM : Dek-D.com - Writer

    SF Brother by your side #MARKBAM

    The happy time in my life is doing everything for you. ช่วงเวลาที่มีความสุขของฉัน คือการได้กระทำทุกสิ่งเพื่อเธอ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,401

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.4K

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 57 / 22:17 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    The  happy  time  in  my  life  is  doing  everything  for  you.
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ช่วงเวลาที่มีความสุขของฉัน  คือการได้กระทำทุกสิ่งเพื่อเธอ







    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      SF Brother by your side #MARKBAM

       

       

      The  happy  time  in  my  life  is  doing  everything  for  you.

      .

      .

      .
      ช่วงเวลาที่มีความสุขของฉัน  คือการได้กระทำทุกสิ่งเพื่อเธอ

       

       

      “แบมแบม ทำอะไรอยู่หน่ะ? มากินข้าวได้แล้ว เดี๊ยวยูคยอมก็แย่งกินหมดหรอก แล้วจะมาบ่นว่าหิวตอนดึกๆไม่ได้นะ” เสียงของออมม่าของวง ดังขึ้นจากด้านนอก ในขณะที่ผม กำลังนั่งดูรูปที่แฟนๆ ถ่ายจากงานแฟนไซน์ในวันนี้

      “ครับจินยองฮยอง เดี๊ยวแบมออกไปแล้วครับ” ผมพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คไว้ เอาไว้เดี๊ยวค่อยมาดูต่อแล้วกัน ผมยังไม่อยากโดนออมม่าเค้าบ่นไปมากกว่านี้

       

      ผมชื่อแบมแบมครับ เด็กชายกันต์พิมุกต์ ภูวกุล อายุ 17 ปี ผมว่าทุกคนคงรู้จักผมและพี่ๆของเราอยู่แล้วล่ะครับ ก็พวกเราหน่ะ GOT7 นี่หน่า

       

      ผมเดินเข้ามาในห้องครัวก็พบว่าพี่ๆทุกคนนั่งรอกินข้าวกันอยู่แล้ว เริ่มจากลีดเดอร์ของวง เจบีฮยองที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ โดยข้างซ้ายเป็นยองแจฮยอง รูมเมทสุดที่รักของลีดเดอร์ ที่กำลังจ้องกับข้าวตาเป็นมัน สงสัยฮยองเค้าจะหิวมากหล่ะครับ ข้างๆยองแจฮยองเป็นแจ็คสันฮยองที่ตอนนี้กินไม่ได้รอใครเลยครับ ผมแอบเห็นนะว่าเมื่อกี๊ฮยองเค้าเพิ่งยัดไข่ม้วนสามชิ้นรวดเข้าไปในปาก

       

      “นี่แจ็คสันฮยอง ใจคอจะไม่รอน้องหน่อยหรอครับ แล้วกินอย่างนั้นน่ะ กะไม่ให้เหลือถึงแบมเลยสินะ!

      “ก็แบมช้าเองนี่ ฮยองหิวอ่ะ หิวมาก ขอกินก่อนไม่ได้รึไง อีกอย่างฮยองอ่ะกินเยอะก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะฮยองเป็นนักกีฬา ระบบเผาผลาญของฮยองดีกว่าทุกคนอยู่แล้ว”

      “หรอครับ ผมว่าไม่น่าเกี่ยวนะ ถึงระบบเผาผลาญฮยองจะดี แต่ก็ใช่ว่าร่างกายฮยองจะเอาไปใช้ได้ดีนะครับ ไม่งั้นฮยองคงสูงไปนานแล้ว” มักเน่ของวงที่นั่งข้างๆแจ็คสันฮยองแซวออกมาได้อย่างสบายปาก พร้อมกับตักข้าวกินอย่างสบายใจ  เอิ่ม ยูคยอมอ่า นายมั่นใจนะว่านายเป็นมักเน่ พูดอะไรแต่ล่ะอย่างนี้ คนเป็นพี่ต้องปวดหัวทุกที -__-

      “นี่ไอ้เด็กยักษ์ แกว่าฉันหรอ!!

      “ผมเปล่า ผมแค่พูดให้ฟังเถอะ”

      “แกนี่มัน….!!

      “เอิ่ม ฮยองพอเถอะครับ อย่าไปสนใจยูคยอมเลย กินข้าวกันดีกว่าเนอะ แบมหิวแล้ว”

      “เอางั้นก็ได้ นี่เห็นเป็นแบมของฮยองหรอกนะ ฮยองถึงยอม” แจ็คสันฮยองพูดพร้อมกับยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเค้า เอ่อ ฮยองครับ อย่ายิ้มให้ผมตอนที่ยังไม่ได้กลืนข้าวสิครับ!

       

      พูดเสร็จผมก็เดินไปนั่งอีกฝั่ง ก็ด้านขวาของเจบีฮยองแหล่ะครับ จินยองฮยองนั่งอยู่ก่อนแล้ว

       

      “แบมมาเร็ว ฮยองตักข้าวไว้ให้แล้ว”

      “ขอบคุณมากนะครับฮยอง ฮยองนี่เหมือนแม่จริงๆ”ผมพูดพลางยิ้มกว้างให้กับจินยองฮยอง

       

      จินยองฮยองหน่ะ ตั้งแต่ผมเจอเมื่อ 3 ปีก่อน เค้ามักจะดูแลผมอย่างดีเสมอ ไม่ว่าจะกิน จะนอน หรือเวลาไม่สบาย ผมก็จะมีฮยองเค้าดูแลอยู่ตลอด แต่ไม่ใช่ว่าพี่ๆคนอื่นจะไม่ดูแลนะครับ ทุกคนดูแลผมเป็นอย่างดีไม่เว้นแม้แต่ยูคยอมที่ถึงจะเป็นเพื่อนกัน เค้ายังดูแลผมเลย

       

      “อ้าวมาร์คฮยองมาแล้วหรอครับ นั่งๆ วันนี้ผมทำของโปรดของฮยองไว้ด้วยนะ ^^

      “ขอบใจนะจินยอง” มาร์คฮยองยิ้มให้จินยองฮยองน้อยๆแล้วเดินมานั่งข้างผมเงียบ โดยไม่ทักทายหรือแม้แต่มองหน้าผมเลย จริงสินะ ผมไม่เคยอยู่ในสายตาฮยองอยู่แล้ว ไม่เหมือนจินยองฮยอง…..

       

      พวกเราทุกคนกินข้าวมื้อเย็นกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนพูดคุยกันถึงเรื่องงานแฟนไซน์วันนี้ไปด้วย พลางห้ามศึกปะทะฝีปากของแจ็คสันฮยองและยูคยอม ไหนจะคอยห้ามศึกการแย่งชิงอาหารของเจบีฮยองกับยองแจฮยองอีก ส่วนผมกับจินยองฮยองก็ขำไปกินไปล่ะครับ จะมีก็แต่มาร์คฮยองเท่านั้นแหล่ะที่กินเงียบๆโดยไม่สนใจใคร……ฮยองเป็นอะไรนะ? ไม่สบายรึเปล่า?

       

      หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วเมมเบอร์ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน แจ็คสันฮยองกับยูคยอมที่ทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเมื่อกี๊ตอนนี้สงบศึกกันเรียบร้อยแล้วครับ นั่งอยู่หน้าทีวีพร้อมกับเกมใหม่ล่าสุดแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยมียองแจฮยองนอนเชียร์อยู่ข้างๆ ส่วนเจบีฮยองกับจินยองฮยองสองคนนั้นช่วยกันล้างจานอยู่ในห้องครัว เห้อ….ผมจะทำอะไรดีล่ะ เข้าไปดูรูปที่งานแฟนไซน์ต่อดีไหม? หรือว่าจะไปดูมาร์คฮยองในห้องสักหน่อย เค้าเป็นอะไรรึเปล่านะ?

       

      “ก๊อก ก๊อก ก๊อก….! มาร์คฮยอง แบมขอเข้าไปนะครับ” ยังไม่ทันได้คิดอะไร ขาของผมก็ก้าวมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของมาร์คฮยองซะแล้ว

      “อือ…….” เป็นสัญญานว่าฮยองอนุญาตแล้วหล่ะ

      “เป็นอะไรรึเปล่าครับฮยอง? วันนี้แบมเห็นฮยองเงียบๆไป ซึมๆ หรือฮยองไม่สบายตรงไหน?”

      “ป่าวหรอก แค่เหนื่อยหน่ะ

      “อ่า ก็แหงล่ะ ฮยองต้องตีลังกาตั้งกี่รอบล่ะวันนี้ ไหนจะงานแฟนไซน์อีก ก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดาแหล่ะครับ งั้นให้แบมไปเอาวิตามินมาให้ฮยองไหม หรือว่าจะ….

      “ไม่ต้องหรอก….ฮยองไม่ได้เหนื่อยเพราะเรื่องนั้น…. แววตาของมาร์คฮยองที่สื่อออกมานั้นดูเหนื่อยล้ามากจริงๆ ทั้งที่ปกติแล้วดวงตาคู่นั้นที่ผมชอบมองและมักจะชื่นชมอยู่เสมอจะสดใสอยู่ตลอดถึงแม้ว่าฮยองจะไม่ได้ยิ้มออกมาก็ตาม แต่คราวนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น

      “แล้ว……ฮยองเหนื่อยเรื่องอะไรหรอครับบอกแบมได้ไหม?...” ผมถามออกไปอย่างแผ่วเบา ทั้งที่ผมรู้อยู่แล้ว คำตอบของมาร์คฮยองหน่ะ มีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกครับ คงเป็นเพราะคนๆนั้นสินะ….

      “เมื่อไหร่…..เมื่อไหร่กันที่ฮยองจะเข้าไปอยู่ในใจของจินยองได้….ทั้งที่เจบีก็คบกับยองแจแล้ว ทำไม…….ทำไมจินยองถึงยังไม่ตัดใจสักที….ต้องให้รอถึงเมื่อไหร่กัน ฮยองเหนื่อยแล้วแบม ฮยองเจ็บ

       

      ผมเดินไปสวมกอดพี่ชายตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ผมไม่รู้จะปลอบฮยองยังไง ทั้งที่รู้ว่ามาร์คฮยองรักจินยองฮยองมากแค่ไหน แต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้เลย…..

       

      จริงหรอ ที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย? หรือที่จริงแล้วผมไม่ยอมทำมันต่างหาก….

       

      ผมรู้ว่าการที่รักใครสักคนหนึ่งอย่างหมดหัวใจ ทำให้ได้ทุกอย่างๆไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ แต่ทุกคนมีหัวใจนะครับ ยังไงก็ต้องอยากได้ความรักตอบแทนกลับมาอยู่แล้ว ก็เหมือนกับผมในตอนนี้….

       

      “ฮยอง…..อยากร้องไห้ไหม? ร้องกับแบมก็ได้นะ แบมอยากช่วยฮยอง….ขอแค่แบ่งเบาความเจ็บปวดของฮยองได้ก็พอแล้ว” ถึงจินยองจะไม่รักฮยอง แต่แบมรักฮยองนะ รู้ไหม….ประโยคสุดท้าย ที่ผมอยากจะพูดออกไป แต่ก็ไม่กล้า ผมพูดได้แค่ในใจเท่านั้นแหล่ะครับ แค่นี้มาร์คฮยองก็มีเรื่องมากมายอยู่แล้ว อย่าให้ผมต้องเป็นตัวสร้างปัญหาของฮยองเค้าอีกเลย

      ไม่เป็นไรฮยองไม่เป็นไร แค่กอดแบมฮยองก็ดีขึ้นแล้ว…..ขออยู่อย่างนี้สักพักนะแบม….

      ทุกครั้งที่ฮยองเค้าเสียใจ ผมรู้ครับว่ากอดของผมจะช่วยให้ฮยองเค้าดีขึ้นได้เสมอ ไม่ใช่เพราะตัวผมหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะผมหน่ะ….

      “กอดแบมแล้วฮยองดีขึ้นจริงๆนะ….แบมเหมือนจินยองมากจริงๆ……” มาร์คฮยองเงยหน้ามาจากไหล่ของผม พร้อมกับส่งยิ้มอ่อนแรงมาให้

       

      ครับนั่นแหล่ะ สาเหตุของการกอดนี้….ไม่มีอะไรเลยครับ แค่ผมเหมือนจินยองฮยอง….ผมมันแค่ตัวแทน

       

      “ครับ ฮยองดีขึ้นก็ดีแล้ว แบมไม่ชอบให้ฮยองทำหน้าเศร้าแบบนั้น ฮยองออกจะหล่อขนาดนี้ทำหน้าแบบนั้นเกิดแก่ไวขึ้น แล้วใครจะมาเป็นหน้าตาของวงเราล่ะครับ!

      “หึหึ แจ็คสันล่ะเป็นไง พอไหวไหม?”

      “ไม่ไหวหรอกครับ แจ็คสันฮยองสติออบซอ ฮ่าๆ” ผมพูดเล่นไปทำให้มาร์คฮยองหัวเราะออกมาน้อยๆ

      มีแค่เพียงเท่านี้แหล่ะครับที่ผมจะทำให้ได้

      “เดี๊ยวฮยองจะฟ้องแจ็คสันมัน ว่าแบมว่ามันสติไม่ดี”

      “ป่าวสักหน่อย แบมแค่บอกว่าสติออบซอ สติไม่ดีนั่นมาร์คฮยองพูดเองมากกว่า”

      “ฮ่าๆ แต่ก็นะ แจ็คสันมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆนี่นะ”

      ยิ้มแล้ว หัวเราะแล้ว สายตาคู่นั้นกลับมาสดใสเหมือนเดิมแล้ว……เพราะผมใช่ไหม?

      ผมทำให้ฮยองเค้ามีความสุขใช่ไหม? แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับคนอย่างผม

      “ว่าแต่แบม….แบมกับแจ็คสันหน่ะ คบกันหรอ? หรือว่ายูคยอมล่ะ หมอนั่นดูท่าจะชอบแบมนะ”

      “ป่าวหรอกครับ ทั้งคู่นั่นแหล่ะ” ผมเงียบไปสักพัก พร้อมกับเอ่ยอีกประโยคขึ้นมา และผมก็รู้แล้วว่าผมพลาด

      “แบมมีคนที่แบมชอบอยู่แล้วครับ

      “หือ? ใครกัน ทำไมฮยองไม่เห็นรู้เรื่อง? ไหนแบมเคยบอกว่าจะไม่มีความลับกับฮยองไง ทีฮยองยังบอกเรื่องจินยองให้ฟังเลย ขี้โกงนี่หน่า ไหนบอกฮยองมาซิ ว่าคนโชคดีคนนั้นเป็นใคร? ฮยองรู้จักไหม?”

      คนโชคดีคนนั้นหรอครับ….ฮยองไง….

      “ครับ ฮยองรู้จัก…..

      “จริงหรอ? เด็กเทรน?”

      “เอาไว้แบมตัดใจจากเค้าได้เมื่อไหร่แบมจะบอกฮยองนะครับ…. ผมตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

      “ตัดใจ? ทำไมล่ะแบม หรือว่าคนนั้นเค้ามีแฟนอยู่แล้ว….” สีหน้าลำบากใจของมาร์คฮยองแสดงออกมาให้เห็นออกมาได้ชัดเมื่อพูดประโยคนี้ออกมา

                      ผมสร้างปัญหาให้มาร์คฮยองอีกแล้วสินะ….

      “ป่าวหรอกครับ…..แต่เค้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”

      “อ่า…..เหมือนกันเลยเนอะทั้งฮยอง ทั้งแบมขอโทษนะ ที่ฮยองไม่เคยรู้เลย เอาแต่คอยพึ่งแบมเวลามีเรื่องไม่สบายใจ ทั้งที่แบมก็มีปัญหาของตัวเอง….

      “ไม่หรอกครับ แบมไม่บอกเอง….และแบมก็เต็มใจที่จะช่วยฮยอง

      “ขอบคุณนะแบม ขอบคุณที่อยู่ข้างๆฮยองเสมอ….ถ้าแบมเป็นจินยองก็ดีสิเนอะ เรื่องทุกอย่างคงง่ายกว่านี้ ฮยองจะได้มีเวลาไปช่วยปัญหาของแบมได้

      ถ้าผมเป็นจินยองฮยองอย่างนั้นหรอ?……..จริงสินะ เพราะผมก็แค่ตัวแทน น่าสมเพชจริงๆ

      “ถ้าผมเลือกได้ผมก็อยากเป็นจินยองฮยอง ผมอยากเป็นคนที่ฮยองรัก……

      พูดเสร็จผมก็หันหลังกลับทันที….ไม่ไหวแล้ว….ผมกลั้นมันไม่ไหวแล้ว

      อย่าไหลออกมานะ อย่ามาอ่อนแอตรงหน้ามาร์คฮยอง ถ้าฮยองเห็นว่าผมร้องไห้ ทุกอย่างก็จบ

      “แบม….. เสียงของมาร์คฮยองที่เรียกชื่อผมออกมาแผ่วเบาผมไม่รู้ว่ามาร์คฮยองมีสีหน้ายังไงตอนที่ผมพูด รวมถึงตอนนี้

      “แบมขอตัวก่อนนะครับ ฮยองคงจะเหนื่อยแล้ว พักผ่อนเถอะครับ….

      ผมรีบก้าวเท้าออกมาจากห้องของมาร์คฮยองอย่าวเร็ว แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว….

      “อ๊ะ! มาร์คฮยอง!!

      ข้อมือบางของผมถูกกระชากให้หันกลับไปเผชิญกลับเค้า คนที่ผมอยากจะหนีไปให้พ้นมากที่สุดในตอนนี้

      “คนๆนั้นหน่ะ…..ฮยองใช่รึเปล่า?”

      “ฮรึกฮือไม่ใช่หรอกครับฮรึกๆ แบมขอตัวนะ” ผมพยายามดึงมือของตัวเองให้หลุดออกจากมือของมาร์คฮยอง ผมไม่ไหวแล้ว ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้ ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของผมกับมาร์คฮยองต้องจบลงแบบนี้ ถึงเค้าจะมองผมเป็นแค่ตัวแทน เป็นแค่น้องชาย ผมก็ยอม เพื่อที่จะได้อยู่ข้างๆมาร์คฮยองแล้ว

      “ปล่อยแบมนะ แบมอยากกลับห้องแล้ว มาร์คฮยองต้องพักผ่อนนะครับ ปล่อย ฮรึกเถอะครับ”

      “ตอบฮยองมาก่อนสิ….คนที่แบมชอบหน่ะ ฮยองใช่รึป่าว? คนที่ทำให้แบมต้องเจ็บปวดหน่ะ ฮยองใช่ไหม?”

      ฮรึกๆ………..” ฮยองจะถามทำไม ในเมื่อคำตอบของผมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

      “อย่าร้องไห้สิรู้ไหมว่าฮยองเจ็บนะที่เห็นแบมร้องไห้แบบนี้…. น้ำเสียงที่อ่อนโยนของมาร์คฮยองที่พูดออกมา แววตาคู่นั้นที่ผมหลงรัก และมือที่กำลังเกลี่ยน้ำตาให้ผม กำลังทำให้ผมหวั่นไหว ผมกลัว…..กลัวว่าผมจะเก็บมันต่อไปไม่ไหวแล้ว

      “นะครับ บอกฮยองให้รู้ที…..

      “ฮือ……ถ้าใช่ ฮรึกๆ จะเป็นยังไงหรอครับฮือๆๆ มาร์คฮยองจะทำยังไง? ฮรึกๆฮือๆ จะเกลียดแบมไหม?”

      ……..........................” ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงแค่แววตาสีหน้าที่ตกใจและเจือความเจ็บปวดไว้

       

      ผมพูดมันออกไปแล้ว ผมบอกไปแล้ว ความลับตลอดสามปีที่ผมเก็บไว้…..ทุกอย่างมันจบแล้ว

       

      “ผม ฮรึกๆ ขอโทษ….ที่ชอบฮยอง ผมรู้ว่าฮยองรักจินยองฮยองมากแค่ไหน ผมรู้ ฮือๆ”

      ….แต่ผมหน่ะ ขอแค่เป็นน้องชายของฮยอง เป็นแค่ตัวแทนของจินยองฮยอง ฮือๆ ผมขอแค่นี้ได้ไหมครับ ฮรึกๆ อย่าเกลียดแบมเลยนะมาร์คฮยอง แบมขอโทษ….ฮือๆ ฮรึกๆ ฮือๆ”

       

      ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ผมทำใจไม่ได้หรอกนะที่จะเสียมาร์คฮยองไป ขอร้องเถอะ ต่อให้ผมต้องเจ็บปวดแค่ไหนผมก็ยอม แต่อย่าให้เราต้องจบกันแบบนี้นะ

       

      “ฮยอง….ฮรึกๆ ลืมมันเถอะนะครับ คิดซะว่าแบมไม่ได้พูด ผมยังเป็นแค่น้องของฮยอง ผมเลิกชอบฮยองก้ได้  ฮยองก็รักจินยองฮยองไป

      “พอแล้วแบม……..หยุดได้แล้ว

      “ไม่เอา ฮรึกๆ ฮือออแบมไม่หยุด นะครับครับ ฮรึก ฮยอง ขอร้องแบมขอร้อง ลืมเถอะ..

      “ฮยองบอกให้หยุดไง!!.....

      …………………………………”มาร์คฮยอง…..ตวาดผม

      ทั้งที่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ไม่มีสักครั้งที่ฮยองจะขึ้นเสียงแบบนี้

      สีหน้าที่มองมาที่ผมนั้นบอกผมได้อย่างดี ฮยองกำลังเจ็บและฮยองกำลังเสียใจ….เพราะผมหรอผมมันแย่

      สุดท้ายแล้ว ผมก็ทำให้ฮยองเสียใจสินะ….ผมขอโทษ

       

      “ฮยองพูดหรอว่าโกรธ….

      “ทำไมต้องพูดแบบนั้นทั้งๆที่รู้ว่าคนที่เสียใจกับคำพูดพวกนั้นก็คือแบมเอง

      “ทำไมถึงต้องเจ็บปวดเพราะฮยอง….” น้ำตาใสๆไหลลงจากตาคู่นั้น …..สีหน้าที่เจ็บปวดนั้น

       

       ผมทำให้มาร์คฮยองร้องไห้….

       

      “ฮรึกๆ แบมขอโทษ ฮือๆ ฮยองอย่าร้องไห้นะครับ ไม่ร้องนะ ฮรึกๆ” ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้มาร์คฮยอง

      “แบมจะไม่พูดอีก แต่อย่าร้องไห้เพราะแบมเลยนะ ฮรึก”

      “ที่ผ่านมาฮยองไม่เคยรู้เลยว่าแบมรู้สึกยังไง แบมต้องมานั่งฟังเรื่องของฮยองทั้งที่ตัวเองต้องเสียใจ แต่ทุกครั้งแบมก็ฟังจนจบและคอยปลอบใจฮยอง

      “หลายครั้งที่ฮยองเผลอตัวมองแบมเป็นตัวแทนของจินยอง….แบมคงเจ็บมากสินะครับ ฮยองขอโทษ….” มาร์คฮยองจับมือของผมไว้พร้อมกับแววตาที่สื่ออกมาว่าฮยองเสียใจและรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

      “ครับ ไม่เป็นไร….แบมเต็มใจเอง ฮยองไม่ผิด ฮรึก…..

      “จากนี้ไป…..ไม่ต้องแล้วนะแบม….ไม่ต้องมารับฟังเรื่องของฮยองอีกแล้ว….

      อะไรนะ…..ไม่ต้องรับฟังอีกแล้ว….

       

      เหมือนหัวใจผมหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง

       

      ไหนฮยอกบอกว่าไม่โกรธแบมไง….แต่ทำไมหล่ะ หรือฮยองจะไม่อยากเห็นหน้าผมอีกแล้ว

       

      แล้วจากนี้ผมจะทำยังไง ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีมาร์คฮยอง ผมจะผ่านแต่ล่ะวันไปได้ยังไง

       

      ทำไม หล่ะครับ….ไหน ฮรึกฮยองบอกว่าไม่โกรธไง แล้วทำไม ฮือๆ….” จบแล้ว ทุกอย่าง ผมจะไม่มีมาร์คฮยองอยู่ข้างๆอีกแล้วใช่ไหม ผมสูญเสียเค้าไปแล้วใช่ไหม

      “ฮืออออออ ทำไมครับฮยอง ทำไมต้องเป็นแบบนั้น….ไม่เอา ฮรึก ฮือๆ”

      “ชู่ววว….ไม่ร้องนะเด็กดี ไม่ร้องนะแบม ฟังฮยองก่อนสิครับ

       

      ฟังอะไรอีก….ยังมีอะไรที่ผมจะต้องรู้อีก แค่นี้ผมก็รับไม่ไหวแล้ว

       

      แค่ตลอดสามปีที่ผ่านมาผมยอมเป็นแค่น้องของฮยอง

       

      ยอมรับฟังเรื่องราวทุกอย่างของฮยอง

       

      ฟังว่าฮยองชอบจินยองฮยองมากแค่ไหน

       

      ผมก็เจ็บจนจะตายแล้วนะครับ

       

      “ที่ฮยองบอกว่าไม่ต้องมารับฟังเรื่องของฮยองอีกแล้วหน่ะฮยองหมายถึงฮยองจะหยุดเรื่องของจินยองแล้วหล่ะ….

       

      “ห..หมาย ฮรึก หมายความว่าไงครับ ฮึก ?

       

      “กับจินยองหน่ะ ฮยองตัดสินใจแล้ว ว่ามันจะเป็นแค่อดีตฮยองจะไม่เสียใจหรือชอบจินยองต่อไปอีกแล้ว เพราะฮยองรู้แล้ว ว่าคนที่รักฮยองหน่ะยืนอยู่ตรงหน้าแล้วนี่ไงทำไมฮยองจะต้องไปรักคนอื่นอีกหล่ะจริงไหม?”

       

      “ฮยอง….ฮรึกๆ ฮือ ฮยองพูดจริงหรอ ฮรึกๆ แต่แบมไม่ได้ขอให้ฮยองมารักแบมตอบนะ ฮยองจะรักจินยองฮยองต่อไปก็ได้ แบมไม่เป็นไร

       

      “นี่น่ะหรอที่ไม่เป็นไร….ไม่หรอกแบม ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเมื่อไหร่ มีความสุขหรือเสียใจแบมจะคอยอยู่ข้างฮยองเสมอ จนฮยองมองข้ามไป…. เคยได้ยินไหม? ที่คนเรามักจะมองสิ่งใกล้ตัวไม่เห็น จนวันนึงที่เรากำลังจะเสียมันไป….เราถึงรู้ว่ามันสำคัญ….ฮยองก็เหมือนกัน….

      “กับจินยองหน่ะใช่ที่ฮยองชอบเค้าและฮยองก็เจ็บทุกครั้งที่ไม่เคยชนะใจจินยองได้ แต่รู้ไหมการที่เห็นแบมร้องไห้เพราะฮยองแบบนี้ มันเจ็บกว่าร้อยเท่าพันเท่า…..

      “ฮยอง……..” ผมไม่รู้ว่าผมหยุดร้องไห้เมื่อไหร่ เพราะหัวใจของผมกำลังสั่นไหวกับคำพูดของมาร์คฮยอง

      “ครับ….ถ้าต้องให้แบมเสียใจแบบนี้ ไม่เอาหรอก…..ฮยองเจ็บ….

       

      สิ้นเสียงของมาร์คฮยอง ก็กลายเป็นอ้อมกอดอันอบอุ่นเข้ามาแทน

       

      มาร์คฮยองกำลังกอดผม…..กอดที่ผมเป็นตัวผม ไม่ใช่เพราะเห็นเป็นตัวแทนของจินยองฮยอง

       

      “มาเริ่มกันใหม่นะแบม….ยังทันใช่ไหม

       

      สมองของผมเหมือนไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว มีเพียงแค่เสียงของมาร์คฮยองที่แผ่วเบากระซิบที่ข้างหูของผมเท่านั้น….

       

      “ฮยองพูดจริงๆ ฮรึก หรอ ครับ ….” วินาทีนั้นผมไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว น้ำตามากมายที่หยุดไหลไปแล้วกลับไหลออกมาอีกครั้งอย่างมากมาย แต่กลับกันจากครั้งแรกที่มันไหล ไม่ใช่เพราะความเสียใจ แต่เพราะผมดีใจต่างหาก….มาร์คฮยองกำลังจะรับรักผมใช่ไหม?

      “ครับ ฮยองพูดจริงๆ จากนี้ไป มาเป็นตัวเล็กของฮยองนะ “

      “ฮรึกๆ ครับ ฮือๆๆๆ ผมรักฮยองนะ ผมรักฮยองจริงๆ”

      “ครับ ฮยองรู้แล้ว ฮยองสัญญา ต่อจากนี้ไปจะมีแค่เรานะ ฮยองจะทำทุกวันให้ดีที่สุด ทดแทนสิ่งที่เราเสียไป ต่อจากนี้ไปแบมเป็นของฮยองแล้วนะ….ห้ามไปรักคนอื่นล่ะรู้ไหม….

      “ครับ แบมไม่มีทางรักคนอื่นแน่นอน ฮรึกๆ “ ผมตอบมาร์คฮยองไปทั้งน้ำตาพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

       

      แค่นี้ก็ดีแล้วครับ ผมไม่ขออะไรไปมากกว่านี้แล้ว แค่เราเริ่มต้นกันได้ แค่มาร์คฮยองเปิดใจรับผม แค่นี้ผมก็มีความสุขจนไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้วครับ

       

      จากนี้ไปผมจะทำทุกวันให้มีความหมาย ผมจะทำให้มาร์คฮยองรู้ว่าผมรักเค้ามากแค่ไหน

      ถึงตอนนี้ฮยองจะไม่สามารถพูดได้ว่ารักผม แต่ผมจะรอวันนั้น ขอแค่เรายังมีกันผมเชื่อว่าสักวันฮยองจะต้องรักผมอย่างแน่นอน……

      Everything  I  gave  you  wont  make  me  lost.
      Everything  you  gave  me  I  should  make  it  worth.
      ทุกสิ่งที่ให้เธอ  ฉันไม่เคยรู้สึกสูญเสีย
      ทุกสิ่งที่เธอให้  ฉันจะเก็บดูแลรักษาไว้ด้วยหัวใจ

       

       

      **2 เดือนผ่านไป**

       

      “นี่แจ็คสัน น้อยๆหน่อยได้ไหม ออกไปห่างๆแบมหน่อย เป็นปลิงหรือไง เกาะอยู่ได้” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยออกมาบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างสดุจะบรรยาย ของรูมเมทร่วมห้องอย่างมาร์ค เมื่องานแฟนไซน์วันนี้จบลง

      “โถ่ มาร์คฮยอง อย่ามาหวงหน่า ผมก็เกาะแบมแบบนี้ตั้งนานแล้วเหอะ มาหวงอะไรตอนนี้ ช้าไปป้ะครับ หึ! เสียงกวนประสาทของรูมเมทร่วมห้องตอบกลับมาอย่างกวนอารมณ์ ก็แหมครับ นานๆทีจะได้แกล้งมาร์คฮยองสักที ขอเถอะครับ! ^^

      “ก็ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้แบมเป็นของฉัน แกก็ไม่มีสิทธิป้ะวะ? ไอ้เตี้ย!

      “โหยฮยอง ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะ ตัวเองสูงตายเหอะ!

      “แล้วอีกอย่างนะ เอาเวลาที่มาระแวงผมไประแวงไอ้ยูคเถอะ รายนั้นนะทำเป็นใส โถ่ ใสอะไรของมัน ผมเห็นมันแอบจับมือแบมตลอดงานอ่ะ! ยุครับ ผมยุ ผมชอบเวลาไอ้เด้กยักษ์มันโดนเล่นงาน กร๊ากกกก เพราะผมสู้เองไม่ได้ไง ผมแค่ไหล่มัน -__-

      “หึ่ม……ยู ค ย อ ม! ไอ้เด็กนี่มันน่ารำคาญจริงๆ ฉันไปหาแบมดีกว่า จะได้ไปดูแลด้วย เดี๊ยวไอ้เด็กยักษ์มันจะได้ใจ เป็นแค่รูมเมท อย่ามารุ่มร่ามนัก เหอะ!- สิ้นเสียงร่างสูงของมาร์คก็ไม่รอช้า ก้าวออกจากห้องอย่างไว

      “เดี๊ยวฮยอง!....

      “อะไรอีกล่ะ? รีบ เห็นไหม? “

      “ฮยองมีความสุขดีใช่ไหม? กับแบมหน่ะ?”

      ร่างสูงไม่ตอบ มีเพียงแต่รอยยิ้มของพี่ใหญ่ที่แสดงออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วเนอะว่าเค้ามีความสุขแค่ไหน ดูจากอาการหวงร่างบางของเค้าแล้วก็น่าจะรู้

      “ไปล่ะ ฉันรู้ว่าแกรู้….หึๆ”

      “คร๊าบบบบบบ ก็เล่นหวงน้อง เล่นปล่อยออร่าสีชมพูจ๋าขนาดนี้ ผมก็รู้แล้วล่ะว่าฟินขนาดไหน ฮ่าๆ”

      “เออ ไปล่ะ….ปัง” เสียงปิดประตูจบลงพร้อมกับรอยยิ้มของคนทั้งสอง

      แค่เห็นพี่และน้องที่ผมรักลงเอยกันด้วยความสุขแบบนี้ผมก็ดีใจแล้ว แล้วเมื่อไหร่ชายหวังคนนี้จะมีบ้างนะ โอ๊ะ หรือว่าชายยังหล่อไม่พอ เดี๊ยวขอเสริมหล่อแป๊ป ยังไม่ทันที่ผมจะได้เสริมเลยครับ เสียงพี่ใหญ่จอมซึนกะไอ้ยูคเด็กยักษ์ก็ลั่นหอขึ้นมา ฮ่าๆ สำเร็จ!!!!

       

      “ย๊ากกกกกก มาร์คฮยอง ผมขอโทษ ปล่อยผมๆๆๆ เจ็บๆ”

      “แก๊ ไอ้ยูค กล้าดียังไงว่ะมากอดแฟนฉันห๊ะ! แบมก็ด้วย ฮยองหวง เดี๊ยวจะโดน!!

      ……………

       

      จบ

       

       **สวัสดีจ้า อันนี้เป็นช๊อตฟิคเรื่องแรกที่เราแต่ง แบบว่าปิดเทอมว่างงานเกิน ไหนจะมาร์คแบมคู่จิ้นสะท้านโลกนี่อีก ทำให้เราต้องมโนเพ้อเจ้อออกมาเป็นตัวอักษรแบบนี้ ยังไงก็ฝากติชม ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^^

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×